ดาโวส, สวิตเซอร์แลนด์ 19 ม.ค. 2567/พีอาร์นิวส์ไวร์/ — เจี่ยเช่าเฉียน (Jia Shaoqian) ประธานไฮเซ่นส์ กรุ๊ป (Hisense Group) ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) ประจำปีครั้งที่ 54 ที่เมืองดาโวส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ การประชุมในปีนี้มุ่งเน้นไปที่ธีม "Rebuilding Trust in the Future" ซึ่งเป็นธีมที่เหมาะกับช่วงเวลา และวิธีการเพิ่มความเชื่อมั่นกลับเข้าสู่ความพยายามในการฟื้นฟูและการคืนสภาพทั่วโลก คุณเจี่ยเป็นตัวแทนไฮเซ่นส์ กรุ๊ป ในกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการเสวนาหัวข้อ "Recharging Growth in China" และการกล่าวสุนทรพจน์ที่งานกาลา "China Night" เขาได้แบ่งปันวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ของไฮเซ่นส์เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมและความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในเวทีระดับโลกผ่านการหารือระดับสูงและการมีส่วนร่วมกับผู้นำระดับนานาชาติจากภาคธุรกิจ ภาครัฐ และอื่น ๆ
คุณเจี่ยอธิบายที่ "China Sustainable Growth Forum ว่า "โลกาภิวัตน์เป็นแนวโน้มที่สำคัญ แม้จะมีความท้าทายหลายประการในปัจจุบัน แต่เรายังคงมั่นใจในอนาคต บริษัทระดับโลกหันมาสนใจเทคโนโลยีขั้นสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและอัปเกรดอุตสาหกรรมระดับไฮเอนด์ ด้วยเหตุนี้ ผลิตภัณฑ์ระดับล่างจึงถูกแทนที่ด้วยผลิตภัณฑ์ระดับกลางถึงระดับสูงแทน ซึ่งเป็นแนวโน้มที่สอดคล้องกับแนวทางของไฮเซ่นส์"
ไฮเซ่นส์ได้รายงานการเติบโตเป็นเลขสองหลักทั้งในด้านรายได้และผลกำไรในปี 2566 ซึ่งมีการเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในจีนและตลาดต่างประเทศต่าง ๆ
อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมีการแข่งขันสูงในระดับโลก โดยอาศัยระบบบูรณาการที่ครอบคลุมด้านการวิจัยและพัฒนา การผลิต การตลาด และห่วงโซ่อุปทาน แบรนด์ใหญ่ ๆ จึงเจาะตลาดทั่วโลกได้อย่างมีนัยสำคัญ ไฮเซ่นส์จึงปรับฟังก์ชั่นเหล่านี้ให้เข้ากับท้องถิ่นผ่านแนวทางการผลิต การตลาด และการวิจัยและพัฒนาแบบครบวงจรพื่อให้ประสบความสำเร็จในระดับสากล ซึ่งส่งเสริมความร่วมมือข้ามพรมแดนระดับชาติ
คุณเจี่ยกล่าวว่า: "ไม่ว่าจะสัญชาติใด สิ่งสำคัญคือธุรกิจต้องเคารพวัฒนธรรมท้องถิ่น บรรทัดฐานทางสังคม พฤติกรรมผู้บริโภค และหลักปฏิบัติด้านการวิจัยและพัฒนาในทุกที่ที่พวกเขาดำเนินกิจการ ด้วยเหตุนี้ ไฮเซ่นส์จึงยังคงจัดหาการจ้างงาน ปฏิบัติหน้าที่ทางเศรษฐกิจ และความรับผิดชอบต่อสังคมของเราต่อไป หากเกี่ยวข้องกับการซื้อกิจการในท้องถิ่น ต้องเคารพแบรนด์เดิมจและปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่เพื่อให้ดำเนินงานต่อไปได้ยาวนานยิ่งขึ้น"
ปัจจุบันไฮเซ่นส์มีนิคมอุตสาหกรรม 34 แห่ง ศูนย์วิจัยและพัฒนา 25 แห่ง และบริษัทในต่างประเทศ 66 แห่งทั่วโลก คาดว่ารายได้ในปี 2566 จะทะลุ 2 แสนล้านหยวน โดยตลาดต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 42% ของทั้งหมดของกลุ่ม ไฮเซ่นส์มุ่งหวังที่จะเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคในท้องถิ่นอย่างลึกซึ้งผ่านศูนย์กลางระดับภูมิภาค และพัฒนาผลิตภัณฑ์ล้ำสมัยคุณภาพสูงที่เหมาะกับตลาดแต่ละแห่ง
ในขณะเดียวกัน เครือข่ายที่กว้างขวางทั่วโลกของไฮเซ่นส์ยังช่วยหนุนการจัดการห่วงโซ่อุปทาน การหมุนเวียนสินค้าคงคลัง และรอบการจัดส่ง ซึ่งช่วยลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ การใช้ทรัพยากร และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีนัยสำคัญ
แต่การปรับให้เข้ากับท้องถิ่นได้อย่างแท้จริงต้องใช้เวลาและความอดทน ไม่ใช่แค่สโลแกนเท่านั้น บริษัทจีนจะต้องยอมรับวัฒนธรรมที่หลากหลายด้วยความเปิดกว้างและความเข้าใจร่วมกันในการขยายกิจการไปทั่วโลก ทั้งนี้ ความร่วมมือแบบเปิดถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความไว้วางใจในสภาพแวดล้อมการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงไป
"ความเชื่อมั่นของเราในอนาคตของโลกาภิวัตน์ยังคงแน่วแน่ โลกอาจมีความแตกต่างในระดับภูมิภาค ภาษา และวัฒนธรรม แต่การที่ผู้คนต้องการชีวิตที่ดีขึ้น การแสวงหาความเจริญรุ่งเรือง และความปรารถนาในการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกันและมิตรภาพคือสายสัมพันธ์ที่หลอมรวมเราทั้งหมดเป็นหนึ่งเดียว" คุณเจี่ยกล่าว
การสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตด้วยนวัตกรรม การไม่แบ่งแยก และความยั่งยืนยังเป็นความท้าทายที่ยังมีอยู่ในขณะที่เราฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก ไฮเซ่นส์มุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์ทั้งในการแข่งขันและความร่วมมือระดับนานาชาติ โดยได้ปฏิบัติตามกรอบความคิดด้าน ESG โดยไฮเซ่นส์จะพยายามอย่างต่อเนื่องในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ใช้วัสดุรีไซเคิลได้มากขึ้นมาผลิตเครื่องใช้ในบ้าน และเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในโลก
เกี่ยวกับไฮเซ่นส์
ไฮเซ่นส์เป็นแบรนด์เครื่องใช้ภายในบ้านและเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำระดับโลก ธุรกิจบริษัทครอบคลุมผลิตภัณฑ์มัลติมีเดีย (โดยเน้นไปที่สมาร์ททีวี) เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และข้อมูลอัจฉริยะด้านไอที ปัจจุบันไฮเซ่นส์ดำเนินงานในกว่า 160 ประเทศ
The information provided in this article was created by Cision PR Newswire, our news partner. The author's opinions and the content shared on this page are their own and may not necessarily represent the perspectives of Siam News Network.